<การคำนวณต้นทุนขาย และสินค้าคงเหลือ
การคำนวณต้นทุนขาย และสินค้าคงเหลือของระบบ Prosoft ibiz ดังนี้
การคำนวณต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือจะช่วยให้บริษัททราบถึงต้นทุนที่ใช้ในการผลิตหรือนำเข้าสินค้ามาขาย และช่วยในการวางแผนการผลิต การจัดซื้อสินค้า หรือการกำหนดราคาขายได้มากขึ้น
วิธีการคำนวณสินค้าคงเหลือในโปรแกรม Prosoft ibiz มีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่
วิธีนี้จะได้รับความนิยม เพราะเป็นวิธีที่เข้าใจง่ายและบันทึกได้ไม่ยุ่งยาก สินค้าที่ซื้อเข้ามาก่อนจะถูกขายออกไปก่อน สำหรับการคำนวณต้นทุนขาย จะใช้ต้นทุนของสินค้าหรือวัตถุดิบที่เข้ามาก่อนสุดในคลังสินค้า ส่วนสินค้าคงเหลือจะใช้ต้นทุนของสินค้าหรือวัตถุดิบที่เข้ามาล่าสุดในคลังสินค้า
วิธีนี้มักจะใช้กับสินค้าทั่วๆ ไปซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน ซึ่งมีข้อดีในการแสดงราคาสินค้าคงเหลือ เพราะเมื่อถึงสิ้นปี สินค้าคงเหลือนั้นจะมีมูลค่าใกล้เคียงกับมูลค่าในตลาดมากที่สุด สามารถแสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินของบริษัทได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง
และ Prosoft ibiz ใช้หลัการบันทึกบัญชีแบบ Periodic Inventory System คือ กิจการไม่ต้องคำนวณราคาทุนของสินค้าคงเหลือและต้นทุนขายทุกครั้งที่มีการซื้อขายสินค้าคงเหลือ เพียงแค่คำนวณหาต้นทุนขายตอนสิ้นงวดเท่านั้น วิธีการคำนวณมีดังนี้
สินค้าคงเหลือปลายงวด จำนวน 600 หน่วย
ซื้อ 30 พ.ย. |
200 หน่วย @ 39 |
7,800 บาท |
ซื้อ 19 มิ.ย. |
400 หน่วย @ 36 |
14,400 บาท |
รวม |
|
22,200 บาท |
ต้นทุนขาย
สินค้าคงเหลือต้นงวด |
18,000 บาท |
|
บวก |
ซื้อ |
54,600 บาท |
สินค้าที่มีไว้เพื่อขาย |
72,600 บาท |
|
หัก สินค้าคงเหลือปลายงวด |
22,200 บาท |
|
ต้นทุนขาย |
50,400 บาท |
ราคาถัวเฉลี่ยต่อหน่วย |
= 72,600 |
|
|
= 2,200 |
|
= 33 บาท |
|
|
สินค้าคงเหลือ 600 หน่วย @ 33 |
19,800 บาท |
ต้นทุนขาย
สินค้าที่มีไว้เพื่อขาย |
72,600 บาท |
หัก สินค้าคงเหลือปลายงวด |
19,800 บาท |
ต้นทุนขาย |
52,800 บาท |
การบันทึกบัญชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด (Periodic Inventory System) วิธีนี้กิจการจะทราบยอดสินค้าคงเหลือ ณ วันใดวันหนึ่ง หรือ ณ วันสิ้นงวดบัญชีได้โดยการตรวจนับตัวสินค้า และทำการตีราคาสินค้า แต่ไม่อาจทราบยอดคงเหลือได้จากสมุดบัญชี