หากเอ่ยถึงสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างที่อยู่ในความคุ้มครองของประกันสังคมจะได้รับนั้น หลายคนอาจเข้าถึงและรู้เพียงสิทธิที่ได้จากกองทุนประกันสังคมที่ตัวลูกจ้างและนายจ้างเองร่วมกันจ่ายเงินสมทบ
แต่รู้หรือไม่ว่าตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างได้เข้าทำงานในองค์กรก็มีอีกหนึ่งความคุ้มครองที่ลูกจ้างจะได้รับจากการทำงานเกิดขึ้นแล้วนั่นคือกองทุนเงินทดแทน
แล้วกองทุนเงินทดแทนกับกองทุนประกันสังคมต่างกันอย่างไร ต้องจ่ายสมทบเท่าไร ใครจ่ายบ้าง ลูกจ้างจะได้รับสิทธิเมื่อไร มาติดตามไปพร้อมๆ กัน
ทำความรู้จักกองทุนเงินทดแทน
กองทุนเงินทดแทนเป็นกองทุนที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นทุนในการจ่ายเงินทดแทนให้กับลูกจ้าง ในกรณีที่ลูกจ้างมีการเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ ทุพพลภาพ สูญหาย หรือเสียชีวิตจากการทำงานให้กับนายจ้างเท่านั้น และความคุ้มครองนี้จะเกิดขึ้นกับลูกจ้างนับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างเข้าทำงาน
ใครส่งเงินสบทบกองทุนเงินทดแทน?
โดยนายจ้างเป็นผู้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนเพียงฝ่ายเดียว และอัตราการจ่ายเงินสบทบของแต่ละบริษัทจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของธุรกิจที่นายจ้างประกอบกิจการ และขณะเดียวกันก็ใช่ว่านายจ้างทุกคนหรือทุกกิจการจะต้องจ่ายเงินสบทบนี้ทั้งหมด เพราะยังมีบางกิจการได้รับการยกเว้น
7 กิจการที่ได้รับการยกเว้นการจ่ายสมทบกองทุนเงินทดแทน
สิทธิประโยชน์ลูกจ้างในกองทุนเงินทดแทน
จะได้รับความคุ้มครอง 2 ส่วน คือ
ทำความรู้จักกองทุนประกันสังคม
กองทุนประกันสังคม คือกองทุนเงินสมทบที่เป็นหลักประกันแก่ลูกจ้างผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม โดยจะได้รับความคุ้มครองและประโยชน์ทดแทนในกรณที่ประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องเกิดจากการทำงานก็ได้ รวมทั้งยังให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมถึงกรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงานด้วย
ใครส่งเงินสบทบกองทุนประกันสังคม
สิทธิประโยชน์ลูกจ้างในกองทุนประกันสังคม
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อมีการจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษาพยาบาล
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนที่คลอด โดยผู้ประกันตนจะได้รับค่าคลอดบุตรจำนวน 15,000 บาท และสามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนทุพพลภาพซึ่งไม่ใช่สาเหตุเนื่องจากการทำงาน โดยผู้ประกันตนจะได้รับการดูแลรักษาพยาบาลและเงินทดแทนการขาดรายได้ ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน (คิดจากอัตราค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท) ตลอดชีวิต
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนถึงแก่ความตาย โดยจะจ่ายให้กับครอบครัวหรือทายาทของผู้ประกันตน ซึ่งจะเป็นเงินค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท และเงินสงเคราะห์กรณีตายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อเมื่อจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่รับสิทธิประโยชน์ทดแทน โดยจะได้เงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเป็นเดือนละ 800 บาท/บุตร 1 คน เป็นเวลา 6 ปี ตั้งแต่แรกเกิด จนบุตรอายุ 6 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะสามารถขอใช้สิทธิได้ครั้งละไม่เกิน 3 คน
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยจะได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพตามจำนวนเงินที่ได้จ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมไว้ ซึ่งจะรวมถึงเงินสมทบจากนายจ้างและและผลตอบแทนจากกองทุนประกันสังคมด้วย
หากผู้ประกันตนมีการจ่ายเงินสมทบไม่ครบ 1 ปี จะมีสิทธิได้รับเพียงเงินส่วนที่ตนเองจ่ายเงินสมทบเท่านั้น
ความคุ้มครองเกิดขึ้นเมื่อจ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนที่จะมีการว่างงานเกิดขึ้น โดยผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนกรณีว่างงานภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลาออกหรือถูกเลิกจ้าง
สรุปความแตกต่างระหว่างกองทุนเงินทดแทนกับกองทุนประกันสังคม