ไขข้อสงสัย Easy E-Receipt 2.0 ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีปี 2568

ไขข้อสงสัย Easy E-Receipt 2.0 ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีปี 2568

ไขข้อสงสัย Easy E-Receipt 2.0 ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีปี 2568



รวมทุกข้อสงสัยมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ช้อปสินค้าลดหย่อนภาษีในปี 2568 สูงสุด 50,000 บาท สินค้าและบริการอะไรที่นำไปลดหย่อนได้และไม่ได้ รวมถึงวิธีการลดหย่อนเป็นอย่างไร

รัฐบาลออกมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” เพื่อสนับสนุนการบริโภคในประเทศ และส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น โดยผู้ที่รายได้และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถนำค่าสินค้าหรือบริการที่กำหนดไปลดหย่อนภาษีในปี 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568

“Easy E-Receipt 2.0” รัฐบาลตั้งเป้าให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่า 70,000 ล้านบาท และเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัว 2.3 – 3.3% พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้สิทธิมาตรการนี้ประมาณ 1.4 ล้านคน และจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 10,500 ล้านบาท



ทั้งนี้กรมสรรพากรได้จัดทำคำถาม-คำตอบ สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” เช่น วิธีการใช้ เงื่อนไข สิทธิประโยชน์ และกระบวนการนำไปลดหย่อน ดังนี้

ถาม-ตอบ เงื่อนไข Easy E-Receipt

 

  1. มาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ให้สิทธิประโยชน์อะไร ?

ตอบ : ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 ได้สูงสุด 50,000 บาท

 

  1. ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ใดจึงได้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ ?

ตอบ : (1) ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจากผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท

(2) หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ในกรณี

  • ซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
  • ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
  • ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ เพื่อสังคม

ทั้งนี้ ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (1) รวมถึงค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (2) ด้วย เช่น ซื้อสินค้า OTOP 50,000 บาท สามารถหักลดหย่อนได้ 50,000 บาท

 

  1. ค่าซื้อสินค้า OTOP ค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้วิสาหกิจเพื่อสังคมหักลดหย่อนได้เท่าไร ?

ตอบ : หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท

 

  1. ผู้ได้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” คือผู้ใด ?

ตอบ : ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

 

  1. การซื้อสินค้าหรือการรับบริการจากผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถ หักลดหย่อนได้ทุกกรณีหรือไม่ ?

ตอบ : ได้เฉพาะกรณีซื้อสินค้าหรือรับบริการดังต่อไปนี้

  • หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
  • หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
  • สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
  • สินค้าหรือบริการของวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
  • สินค้าหรือบริการของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

 

  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการใดที่ไม่สามารถหักลดหย่อนได้ ?

ตอบ : สินค้าหรือค่าบริการที่ไม่สามารถหักลดหย่อนได้ ดังนี้

  • ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่าซื้อยาสูบ
  • ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และค่าซื้อเรือ
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว
  • ค่าที่พักในโรงแรม
  • ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย
  • ค่าที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

 

  1. วิสาหกิจชุมชนต้องเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกรมสรรพากรเท่านั้นหรือไม่ ?

ตอบ : จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ แต่ต้องจดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร

 

  1. วิสาหกิจเพื่อสังคมต้องเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดแจ้งขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อกรมสรรพากรเท่านั้นหรือไม่ ?

ตอบ : ต้องเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยจะจดแจ้งขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อกรมสรรพากรหรือไม่ก็ได้

 

  1. ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการต้องแจ้งข้อมูลใดให้ผู้ประกอบการใช้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ?

ตอบ : ชื่อและนามสกุล ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน)  เมื่อแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้องครบถ้วนแล้ว ข้อมูลการซื้อสินค้าและการรับบริการจะปรากฏ ใน My Tax Account ของผู้เสียภาษี และสามารถใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2568

 

  1. e-Tax Invoice หรือ e-Receipt มีข้อความไม่สมบูรณ์ เช่น เขียนชื่อหรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิด สามารถนำมาใช้หักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : หาก e-Tax Invoice มีรายการครบถ้วน แม้จะมีการระบุชื่อหรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิด ก็สามารถนำมาใช้หักลดหย่อนได้ ทั้งนี้ ควรตรวจสอบว่าเลขประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการถูกต้องหรือไม่ เพื่อประโยชน์ในการใช้ข้อมูลยื่นแบบแสดงรายการภาษี

 

  1. ค่าซ่อมรถสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ได้ หากซ่อมและจ่ายค่าซ่อมระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 และได้รับ e-Tax Invoice

 

  1. ค่าซื้อจักรยานที่ติดเครื่องยนต์สามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เพราะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จักรยานยนต์หมายความรวมถึงจักรยานที่ติดเครื่องยนต์ด้วย

 

  1. ค่าซื้อทองรูปพรรณสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ได้ เฉพาะค่ากำเหน็จ (ตามมูลค่าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากได้รับ e-Tax Invoice

 

  1. ค่าซื้อทองคำแท่งสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการขายทองคำแท่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

  1. กรณีมีสัญญาใช้บริการระยะยาวที่มีระยะเวลาสัญญาเริ่มต้นก่อนวันที่ 16 ม.ค. 2568 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 28 ก.พ. 2568 โดยมีส่วนที่ชำระและใช้บริการระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 ด้วย สามารถหักลดหย่อนค่าบริการเฉพาะส่วนที่ใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากเป็นค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 16 ม.ค. 2568 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 28 ก.พ. 2568

 

  1. กรณีชำระค่าบริการระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 แต่ใช้บริการหลังวันที่ 28 ก.พ. 2568 จะหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากต้องชำระค่าบริการและใช้บริการระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 เท่านั้น

 

  1. ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าทำศัลยกรรมสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการให้บริการของสถานพยาบาลได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

  1. ค่าซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการขายบัตรเพื่อแลกรับบริการไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากนำบัตรเพื่อแลกรับบริการไปแลกรับบริการระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 ซึ่งสามารถคำนวณมูลค่าและออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ได้ สามารถหักลดหย่อนตามมูลค่าดังกล่าวได้

 

  1. ค่าซื้อบัตรของขวัญ (Gift Voucher) และค่าซื้อบัตรเติมเงินสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการขายบัตรของขวัญหรือบัตรเติมเงินไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากนำบัตรของขวัญหรือบัตรเติมเงินไปแลกซื้อสินค้าหรือรับบริการระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2568 ซึ่งสามารถคำนวณมูลค่าและออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ได้ สามารถ หักลดหย่อนตามมูลค่าดังกล่าวได้

 

  1. e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร และแตกต่างจากใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบกระดาษอย่างไร ?

ตอบ : e-Tax Invoice และ e-Receipt คือ ใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบรับ (e-Receipt) ที่ได้มี การจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และได้ลงลายมือชื่อโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ทั้งนี้ ผู้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ต้องได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้ออกได้

 

  1. ผู้ซื้อมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านกับที่อยู่ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแตกต่างกัน ให้ใช้ที่อยู่ใด ?

ตอบ : จะใช้ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่อยู่ปัจจุบันก็ได้

 

  1. กรณีจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการหลายครั้ง จะสามารถนำมูลค่าการซื้อสินค้าหรือการรับบริการ แต่ละครั้งมารวมกันเพื่อใช้สิทธิได้หรือไม่ ?

ตอบ : ได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินที่กำหนด

 

  1. กรณีจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการครั้งเดียว โดยมูลค่าการซื้อสินค้าหรือการรับบริการนั้นสูงกว่า ที่กำหนด สามารถใช้สิทธิได้หรือไม่ ?

ตอบ : ได้ แต่ไม่เกินที่กำหนด

 

  1. e-Tax Invoice หรือ e-Receipt มีชื่อผู้ซื้อสินค้าหลายคนสามารถหักลดหย่อนได้หรือไม่ ?

ตอบ :ไม่ได้ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ต้องมีชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการเพียงคนเดียว

 

  1. กรณี e-Tax Invoice มีทั้งรายการสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและที่ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จะหักลดหย่อนอย่างไร ?

ตอบ : สามารถหักลดหย่อนได้เฉพาะค่าซื้อสินค้าและค่าบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เว้นแต่ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ 5 สามารถหักลดหย่อนได้ แม้จ่ายให้แก่ผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

  1. สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่ได้รับอนุมัติให้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ได้ที่ใด ?

ตอบ : สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่ได้รับอนุมัติให้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2568

Cr. https://policywatch.thaipbs.or.th/

 526
ผู้เข้าชม

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์